"สังคมผู้สูงอายุ" คำนี้ได้รับความสนใจมาหลายปีสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลระบุว่า ปี 2555 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมากถึง 12.59% โดยสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านคนในปี 2550 มาเป็น 7.5 ล้านคนในปี 2553 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 14.5 ล้านคนหรือมีสัดส่วน 20% ในปี 2568
ด้วยความห่วงใยต่อกลุ่มผู้สูงอายุ ผนวกกับปรัชญาในการ ดำเนินธุรกิจของเอไซในประเทศญี่ปุ่นที่ว่า "Human Health care" ซึ่งไม่ได้มุ่งแค่การรักษาสุขภาพกาย แต่ต้องดูแลถึงจิตใจ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้สูงอายุของคนใกล้ชิด รวมทั้งแพทย์ สิ่งเหล่านี้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นกิจกรรมด้านซีเอสอาร์ที่ชื่อ "เอไซ เดย์" (Asai Day) โดยได้จัดกิจกรรมไปเมื่อเร็วๆ นี้ที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว โดยมีกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวัน มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,100 คน อายุเฉลี่ย 60-70 ปี เป็นจำนวนที่มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ 700-800 คน เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก อีกทั้งกลุ่มผู้สูงอายุยังชักชวนเพื่อนฝูงเข้ามาร่วมงาน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
นายทวีศักดิ์ สีทองสุรนภา ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไซ (ประเทศไทย) มาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัทยาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า เอไซได้จัดกิจกรรมเอไซเดย์มาเป็นปีที่ 9 แนวคิดของงานนี้ คือการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่สนใจเข้ามาช็อปปิ้งความรู้ ในงานจะไม่มีการจำหน่ายสินค้าใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งการประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้า พันธมิตรที่เข้าร่วม อาทิ ร้านยาพีแอนด์เอฟ หรือโรงพยาบาลเวชธานี ก็มุ่งเข้ามาเพื่อให้ความรู้กับผู้เข้าร่วมงาน
งานซีเอสอาร์เป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของเอไซ ภายใต้แนวทางการบริหารองค์กร ที่ต้องการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ว่า "เอไซ" ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงการขายยา แต่ต้องทำให้คนไทยทราบว่า ทำไมต้องรับประทานยาของเอไซ นอกจากนั้นจะมุ่งส่งเสริมความรู้เรื่องการใช้ยาที่ถูกต้อง เพราะปัจจุบันคนไทยยังมีความเข้าใจเรื่องยาน้อยมาก รวมทั้งการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม การดูแลที่เหมาะสม ซึ่งหมายถึงผู้ดูแลผู้ป่วยด้วย โดยจะสร้างความรู้ผ่านการจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี รวมทั้งการทำสื่อประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
ส่วนพันธกิจทางด้านธุรกิจ ยังคงมองหาพันธมิตรเพื่อขยายการเติบโต โดยเฉพาะพันธมิตรธุรกิจยา ธุรกิจสุขภาพความงามในประเทศไทย ทั้งลักษณะในการซื้อแบรนด์หรือดูแลเฉพาะการทำตลาด ซึ่งแต่เดิมสินค้าในเมืองไทยอาจจะมองว่าบริษัทระดับสากลจะไม่ให้ความสนใจ แต่วันนี้เอไซได้เดินหน้าเข้าหากลุ่มธุรกิจเหล่านั้น โดยมีการเจรจากับพันธมิตรในเมืองไทยแล้ว 2 ราย คาดว่าจะเปิดเผยความร่วมมือได้ในเร็วๆ นี้
สำหรับสังคมผู้สูงอายุในเมืองไทย คุณทวีศักดิ์ มีความมุ่งหวังว่า ผู้สูงอายุจะมีความ รู้ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพกายใจของตัวเองได้ คนใกล้ชิดสามารถดูแลผู้สูงอายุได้ดี ภาครัฐและภาคเอกชนหันมาให้ความสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุอย่างจริงจัง
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า การก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ เป็นไปในทิศทางเดียวกันในหลายประเทศทั่วโลก อาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากถึง 25% โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงมาก และต้องการใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยการท่องเที่ยว หรือการพำนักระยะยาวในพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ มีสภาพแวดล้อมที่ดี ทั้งด้านสถานที่และสังคมรอบข้าง รวมทั้งมีบริการ ด้านสุขภาพที่มีมาตรฐาน ซึ่งเมืองไทยมีความพร้อมทุกด้านในเรื่องเหล่านี้ เรื่องของผู้สูงอายุจึงถือเป็นอีกหนึ่งในโอกาสของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือการขึ้นสู่ศูนย์กลางทางด้านสุขภาพในอาเซียน (Mediacl Hub)
"กลุ่มผู้สูงอายุเป็นอีกหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจ เพราะเกี่ยวเนื่องกับบริการด้านสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ถ้าเราจับตลาดผู้สูงอายุดีๆ ประเทศก็จะได้ประโยชน์ แต่จะใช้การสื่อสารเชิงพาณิชย์เป็นตัวรุกไม่ได้ การทำตลาดกับผู้สูงอายุต้องทำด้วยใจ ต้องเข้าใจเขา และสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้เกิดขึ้นให้ได้"
ปัจจุบันเมืองไทยเป็นอีกเป้าหมายของการมาใช้ชีวิตหลังเกษียณของผู้สูงอายุจากหลายๆ ประเทศ แต่ก็ยังมีจุดอ่อนในหลายอย่าง อาทิ การสื่อสาร เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังพูด ภาษาอังกฤษไม่ได้ อีกปัญหาคือความซื่อสัตย์ และคุณภาพของชีวิตและทรัพย์สิน
แต่อย่างไรก็ตาม ยังถือว่ามีความได้เปรียบ เมื่อเทียบกับอีกหลายประเทศ ทั้งด้านระบบสาธารณูปโภค คุณภาพของงานบริการ ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่หลายๆ ประเทศมีความพร้อมเพียงบางด้านเท่านั้น อาทิ สิงคโปร์ แม้จะมีจุดเด่นเรื่องมาตรฐานและความ ปลอดภัย แต่ขาดความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น