นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กว่าสองปีที่ผ่านมา สสว. ได้ยังคงเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัดอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันดำเนินกิจกรรมต่างๆ นำมาสู่แนวทางความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันซึ่งมีการลงนามความร่วมมือเพื่อสิทธิประโยชน์ของผู้ประกอบการกับหน่วยงานองค์กรต่างๆ
ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่าสิบแห่ง แบ่งเป็นงานด้านต่าง ๆ ดังนี้ ด้านการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ด้านการขยายช่องทางการตลาด ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
“สสว. ได้เปิดให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปที่สนใจ ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว. ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ www.sme.go.th โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อรับข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุน ขยายช่องทางตลาด และเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น โดยในขณะนี้ผู้ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว. ยังสามารถสมัครเข้าร่วมแคมเปญ “SME Hybrid Fair” บนแพลตฟอร์ม Shopee จะจัดขึ้นระหว่าง 16 มิถุนายน – 15 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นการส่งเสริมช่องทางการตลาดและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและยุคสมัย โดยแคมเปญดังกล่าวมีการส่งเสริมการขายพร้อมโปรโมชั่นและโค้ดส่วนลดตลอดแคมเปญ และผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้ารับบริการกับ สสว. สามารถสมัครเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย” ผู้อำนวยการ สสว. กล่าว