หลังวิกฤตโควิด19 – ทำเทรนด์การรักสุขภาพมาแรงกว่าที่เคย ส่งผลให้ JETTS Fitness เติบโตต่อเนื่อง รุกจุดขาย ชูจุดเด่น ราคาคุ้มค่า สาขาแน่นทั่วประเทศ เผยแผนการขยายสาขา 12 สาขาต่อปี เตรียมลุยโซนภาคตะวันออก มั่นใจแผน 5 ปีข้างหน้าขยายครบ 100 สาขา ทั่วประเทศ
นาย เดน แคนท์เวล ผู้จัดการประจำประเทศไทยของเจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง กล่าวว่า JETTS Fitness เป็นฟิตเนสแบรนด์ดังจากออสเตรเลีย ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วโลก และยังเป็นเจ้าของสถิติแบรนด์ฟิตเนสที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย เปิดให้บริการในไทยมา 6 ปีแล้ว เริ่มจาก 2 สาขาแรกที่ นวมินทร์ และทาวน์ อิน ทาวน์ ปัจจุบัน JETTS Fitness มีสาขาในไทย 39 สาขา แบ่งเป็น JETTS Black 2 สาขา ที่เกษรวิลเลจ และ The PARQ (เดอะปาร์ค) พระรามสี่ โดย JETTS Black เป็นฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายระดับพรีเมียมรุ่นล่าสุด มีฟังก์ชันนัลเทรนนิ่งที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษ เทรนเนอร์เฉพาะทางมากประสบการณ์ คลาสออกกำลังกายที่หลากหลายได้มาตรฐานระดับโลกและมีคาเฟ่เพื่อสุขภาพ ส่วน JETTS Red มีอยู่ 37 สาขา เน้นการเปิดบริการ 24 ชั่วโมง กลุ่มเป้าหมายของ JETTS เป็นกลุ่มวัยทำงาน อายุ 25-30 ปี ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยผู้หญิงสนใจออกกำลังตามคลาสต่างๆ ส่วนผู้ชายสนใจการออกกำลังกับเครื่องเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของฟิตเนสในไทยก่อนสถานการณ์โควิดอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท แต่ตอนนี้คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ของ JETTS Fitness อยู่ที่ 17 ล้านบาทต่อเดือน เรามีสมาชิกอยู่ประมาณ 30,000 ราย และจัดสรรการใช้งบสำหรับการทำตลาดประมาณ 3% จากรายได้ และวางแผนขยายสาขาให้ได้ปีละ 12 สาขา ตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้า เราจะมี JETTS 100 สาขา กระจายอยู่ทั่วเทศไทย โดยใช้งบในการลงทุนสาขาละ 30-45 ล้านบาท และคิดว่าใช้เวลาในการคืนทุนประมาณ 3 ปีต่อสาขา และเราเชื่อมั่นว่าการเปิดสาขาใหม่นี้จะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกได้กับ JETTS ได้ 1,200 คนต่อสาขาอีกด้วย โดยแผนการขยายสาขาเบื้องต้น เราจะทำไปพร้อมกับพันธมิตรอย่างเซ็นทรัล ที่ล่าสุดเราก็เตรียมเปิดสาขาใหม่โซนภาคตะวันออกที่เซ็นทรัล จันทบุรี คาดว่าไม่เกินสิ้นปี 65 จะเปิดบริการได้อย่างแน่นอน และน่าจะประสบความสำเร็จเหมือนกับสาขาอยุธยา ที่เราเปิดไปเมื่อต้นปีหลังปลดล๊อคโควิด ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก
ทั้งนี้ เดน ยังได้กล่าวถึงเทรนด์การออกกำลังกายว่า ตลอด 2 ปีที่เกิดวิกฤตโควิด19 ถึงแม้ว่าฟิตเนสต้องปิดบริการชั่วคราว แต่หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปลดล็อคให้กลับมาใช้ชีวิตแบบเดิม จึงส่งผลให้ตลาดฟิตเนสกลับมาเติบโตอีกครั้ง และ JETTS เองก็โตได้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจากผู้คนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการใส่ใจสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม เป็นปรากฏการณ์ที่ว่า การออกกำลังกายจะไม่ใช่เป็นแค่เทรนด์อีกต่อไป แต่เป็นวินัยที่ทุกคนหันมาสร้างให้เป็นกิจกรรมประจำวัน สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้คนเลือกมาใช้บริการ JETTS Fitness คือ คุ้มค่าเงิน เนื่องจากค่าสมาชิกของเราเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,600 บาท และการที่เรามีจุดเด่นเรื่องสาขาที่ค่อนข้างมากถึง 39 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สามารถจองคลาสออกกำลังกายผ่านทาง Applicaiton ได้ ยิ่งทำให้เพิ่มความสะดวกสบายและเป็นแรงจูงใจให้กับสมาชิกมากยิ่งขึ้น
“JETTS Fitness ไม่เพียงแต่เป็นฟิตเนสเพื่อการออกกำลังกาย เรามีแนวคิดที่จะสร้างกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสมาสนุกกับกิจกรรมที่เราจัดขึ้นร่วมกัน เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ใครมาออกกำลังกายที่ JETTS Fitness เขาจะได้มากกว่าการออกกำลังกาย เขาจะได้เพื่อน ได้สังคมใหม่ เป็นสังคมที่สร้างภูมิร่วมกันทั้งร่างกายและจิตใจ โดยล่าสุดเราได้จัดกิจกรรม Jetts NEON Party ที่สาขา The PARQ (เดอะปาร์ค) พระรามสี่ ภายในงานมีเกมการแข่งขันออกกำลังกายผ่านคลาสต่างๆ อย่าง J-Series exclusive class คลาสการออกกำลังกายที่มีเฉพาะที่ Jetts Fitness, คลาสคาร์ดิโอ การฝึกร่างกายส่วนบน ร่างกายส่วนล่าง และแกนกลางลำตัว ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มการเผาผลาญในระดับปานกลางถึง 2 เท่า เน้นสร้างความสนุกสนานให้เกิดขึ้นกับสมาชิกทุกคน ซึ่งอนาคตเราจะจัดกิจกรรมรูปแบบนี้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ สาขา โดยสมาชิกสามารถติดตามกิจกรรมได้จากทางสาขา หรือโซเซียลมีเดียของ JETTS Fitness เพื่อมาสนุกแบบสุขภาพดีไปด้วยกัน”