“กองทัพเรือ” จัดกำลังช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันเชฟรอน เหตุน้ำเข้าตัวเรือ

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2566

“กองทัพเรือ” จัดกำลังช่วยเหลือเรือบรรทุกน้ำมันเชฟรอน เหตุน้ำเข้าตัวเรือ


ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้หน่วยต่างๆของกองทัพเรือจัดกำลังช่วยเหลือ เรือบรรทุกน้ำมันเชฟรอนจากเหตุน้ำเข้าตัวเรือ พร้อมเตรียมรับสถานการณ์หากมีน้ำมันรั่วไหล

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ ได้เกิดเหตุการณ์ เรือกักเก็บปิโตรเลียม เบญจมาศ 2 ซึ่งเป็นเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ มีน้ำมันดิบในระหว่างจำนวน 400,000 บาร์เรล ของ บริษัทเชฟรอนประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด เกิดอุบัติเหตุน้ำทะเลเข้าตัวเรือ ขณะทำการปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลด้วยลูกอุดลมและถอดวาล์ว เพื่อบำรุงรักษาตามปกติบริเวณห้องเครื่องจักรใหญ่ใต้แนวน้ำ แต่ลูกอุดลมเกิดระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายโดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณแบริ่ง 171 ระยะ 129 ไมล์จากปลายแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ รายละเอียดตามข่าวที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) ได้ติดตามสถานการณ์พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และไม่ให้เกิดผลกระทบโดยเฉพาะมลพิษทางน้ำ ทั้งนี้ส่วนของกองทัพเรือ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ รอง ผอ.ศรชล. ได้สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 และ ศรชล.ภาค 1 จัดกำลังให้การสนับสนุนในทันที โดยในขณะนี้ชุดปฏิบัติการทั้งของกองทัพเรือ ศรชล. และเจ้าที่จากบริษัทฯ เดินทางเข้าพื้นที่เกิดเหตุแล้ว และอยู่ในระหว่างปฏิบัติงาน ในการสำรวจเพื่อวางแผนในการ ปิดผนึกช่องทางเข้าของน้ำที่ทะลักเข้าตัวเรือ รวมถึงการกู้ร่างผู้เสียชีวิตที่จะเร่งดำเนินการในโอกาสแรก  ซึ่งสถานภาพของเรือปัจจุบันยังคงปลอดภัย สภาพคลื่นลมไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน แต่เนื่องจากน้ำทะเลที่ทะลักท่วมห้องเครื่องจักรทำให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าภายในตัวเรือส่งผลให้ระบบอุ่นน้ำมันดิบในระหว่างไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้มีผลกระทบต่อการประมาณสถานการณ์ของการรั่วไหล

ในส่วนของการเตรียมรับมือกับสถานการณ์หากมีการรั่วไหลของน้ำมัน นั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในขณะนี้ กองทัพเรือ โดย ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันกองทัพเรือ (ศคปน.ทร.) ได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์โดย เตรียมแผนการปฏิบัติการไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มีการประชุมเพื่อหารือร่วมกันระหว่าง ทัพเรือภาคที่ 1 , บริษัทฯ  , ศรชล. , ศรชล.ภาค 1 , กรมเจ้าท่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กรมควบคุมมลพิษ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทั้งนี้  การดำเนินการต่างๆ นั้น กองทัพเรือ และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล มีนโยบายสนับสนุนการปฏิบัติการในครั้งนี้ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานหลักของ ศรชล. ซึ่งมีความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงที เนื่องจากตลอดระยะที่ผ่านมา กองทัพเรือ และ ศรชล.ได้จัดให้มีการฝึกปฏิบัติการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล รวมถึงการค้นหาและการช่วยชีวิตทางทะเล โดยบูรณาการความร่วมมือและการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่างๆของ ศรชล. ประกอบด้วย กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนบริษัทเอกชน และหน่วยกู้ภัยต่างๆ โดยจะปฏิบัติตามข้อสั่งการของ นายกรัฐมนตรี ที่ให้ดำเนินการด้วยความรัดกุม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายฝั่ง



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ