จากข้อมูลจากนีลเส็นไอคิว (มกราคม - ธันวาคม 2565) ตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่า 57,000ล้านบาท มีการเติบโตเชิงปริมาณ 2%เท่านั้นเหมือนกับเครื่องดื่มทั่วไป ขณะที่เครื่องดื่มเซกเมนต์ชาเขียวเติบโตมากที่สุดคือ 22% ส่วนปี 2564 มีมูลค่ารวม 53,000 ล้านบาท และปี 2563 มีมูลค่ารวม 55,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากแยกตลาดน้ำอัดลม เป็นกลุ่มน้ำดำ จะมีมูลค่ารวม 48,200 ล้านบาท หรือประมาณ 70% และอีก 30% เป็นกลุ่มน้ำสี ส่วนแพกเกจจิ้งที่เติบโตมากที่สุดปีที่แล้วคือ กระป๋อง โต 10% ขณะที่น้ำอัดลมไร้น้ำตาลมีการเติบโต 36% และมีสัดส่วนในตลาด 10%
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยนั้นขณะนี้มีผู้เล่นรายใหญ่ ๆ อยู่ 4 แบรนด์ ที่ยังคงทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นแบรนด์ต่างชาติ 3 แบรนด์ และแบรนด์โลคอล 1 แบรนด์ โดยปัจจุบันผู้นำตลาดคือแบรนด์โค้กมีแชร์ที่ 51% อันดับที่สองแป๊ปซี่มีแชร์ที่ 37% อันดับที่สามเอสโคล่ามีแชร์ที่ 8% และอันดับที่สี่บิ๊กโคล่ามีแชร์ที่ 3% และเป็นทราบกันดีว่ายิ่งหน้าร้อนในประเทศไทยตลาดน้ำอัดลมจะยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ โดยปีนี้จะมีผู้เล่นรายหลักแบรนด์ไดวางกลยุทธ์อะไรเตรียมลุยทำตลาดกันบ้าง
“เอส โคล่า” แบรนด์น้ำอัดลมสัญชาติไทย ลุยปรับโฉม ปรับสูตร ในรอบ 10 ปี
มาเริ่มที่แบรนด์น้ำอัดลมโลคอล 1 แบรนด์เจ้าเดียวในไทย อย่าง “เอส โคล่า” นำโดย ผู้บริหารคนใหม่ นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการสำนักการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ เอส ของบริษัทปีที่แล้วมีการเติบโตมากถึง 9% มากกว่าตลาดรวม และมีส่วนแบ่งการตลาดน้ำอัดลมรวม 8% เป็นอันดับที่สามในตลาดรวม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดน้ำอัดลมยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในไทย เพราะการบริโภคน้ำอัดลมต่อคนต่อปียังต่ำอยู่ที่ 12 ลิตรต่อคนต่อปีเท่านั้น โดยปีนี้ แบรนด์ เอส โคล่า มีการปรับโฉมครั้งใหญ่หรือการรีเฟรชในรอบ 10 ปีที่ทำตลาดมา ด้วยการ ปรับสูตร-ปรับโฉมใหม่ ส่งแคมเปญโดนใจ ชูคอนเซปต์ “Born to be Awesome เกิดมาซ่า..กล้าเป็นตัวเอง” ที่จะสร้างความแตกต่าง “Awesome Taste” “Awesome Look” “Awesome Campaign” ด้วยการดึงไอคอนตัวแทนชาวเอเชีย นำทีมโดย “ชาอึนอู” “โบกี้ไลออน” “Yes Indeed” และ “3 สาวนักวอลเลย์บอลนิวเจน” รับหน้าที่พรีเซนเตอร์กลุ่มใหม่ พลิกแบรนด์ให้โดนใจ Gen Zest พร้อมขยายฐานลูกค้าในไทยและเอเชีย โดยบริษัทได้วางงบประมาณรวมไว้ที่ 150 ล้านบาท ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว ถึงกันยายน ปี 2566 นี้ เดินหน้าแจกชิมความซ่าครั้งใหม่ของเอส โคล่า ทั่วประเทศ 1 ล้านกระป๋อง พร้อมใช้กับสื่อโซเชียลมากถึง 40% และเตรียมที่จะขยายฐานในช่องทางเซเว่นอีเลฟเว่นด้วยการนำกระป๋องขนาด 325 มิลลิลิตรเข้าไปวางจำหน่ายด้วย และเตรียมขยายฐานตลาดไปต่างประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ปัจจุบันมีจำหน่ายบ้างในตลาดมาเลเซีย
“การอัปเลเวลแบรนด์เอส โคล่า ครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่และครอบคลุมในทุกมิติการตลาดในรอบ 10 ปี และพร้อมตั้งเป้าเป็นตัวแทนน้ำอัดลมสัญชาติเอเชียที่จะยืนสู้ศึกในตลาดน้ำอัดลมประเทศไทยแบบสมศักดิ์ศรี ด้วยการสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ผ่านการถอดบทเรียนความสำเร็จ ความท้าทาย และจับอินไซต์ของวัยรุ่นเอเชีย”
“เป๊ปซี่โค” ลุยเครื่องดื่มน้ำอัดลมในกลุ่มไม่มีน้ำตาลเจาะเทรนด์คนรักสุขภาพ
ด้าน บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT ที่ในปี 2561 ได้ทำการลงนามในสัญญาร่วมทุนระหว่าง บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด จำกัด บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มประเทศญี่ปุ่น และบริษัท เป๊ปซี่โค อิงค์ ผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสหรัฐอเมริกา โดยที่ Suntory เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% เเละ PepsiCo 49% เพื่อเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศไทยมูลค่า 150,000-200,000 ล้านบาท (ไม่รวมน้ำเปล่าและมิกเซอร์) จากมูลค่าดังกล่าว กลุ่มน้ำอัดลมมีส่วนแบ่งประมาณ 30% ตลอด 5 ปีบริษัทฯ เติบโตเฉลี่ย 5.9% ซึ่งเป็นตัวเลขที่โตกว่าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ถึง 3 เท่า โดย นายอนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันพอร์ตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประกอบด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ ชาพร้อมดื่ม กาเเฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม เครื่องดื่มให้พลังงาน เเละน้ำอัดลม/9 แบรนด์ ได้แก่ Pepsi, Mirinda, Lipton, Aquafina, 7up, TEA+, BOSS Coffee, Rockstar เเละ Gatorade เครื่องดื่มน้ำอัดลมมีสัดส่วนมากกว่า 75% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดใน SPBT สำหรับตลาดเครื่องดื่มยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มในกลุ่มน้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล สอดคล้องกับเทรนด์รักสุขภาพของผู้บริโภค โดย ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค สามารถขยายการเติบโตของเครื่องดื่มเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาลได้ถึง 19% เฉลี่ยใน 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันเซกเมนต์น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล มีส่วนแบ่งในตลาดที่ 10% เเละคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี 30% ด้านเครื่องดื่มน้ำอัดลมเป๊ปซี่ เเม้จะเป็นเบอร์สองในตลาด Market share 37%
สำหรับกลยุทธ์ปีนี้เรายังคงสานต่อการสร้างการเติบโตให้ส่วนแบ่งการตลาด เปิดตัวโปรดักต์ใหม่ๆ ร่วมสร้างความสำเร็จไปพร้อมๆ กับคู่ค้า สานต่อโครงการเดิมในเรื่องความยั่งยืน สร้างองค์กร วัฒนธรรม และสร้างคน ส่วนเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากจะเติบโตเป็นสองเท่าของการเติบโตตลาดในทุกๆ ปีแล้ว เรายังตั้งเป้าจะช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์ในกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมให้ได้เพิ่มขึ้นปีละ 1% ด้วย เพื่อในอนาคตอาจได้เห็นเป๊ปซี่ขับเคี่ยวขึ้นมาใกล้เคียงกับอันดับหนึ่งอย่างโค้กได้
“โค้ก” เปิดตัวแคมเปญ “โค้ก” ไม่มีน้ำตาลผ่านสื่อนอกบ้าน ‘Bus Live Ads Sync’
ปิดท้าย กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ประกอบไปด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) ล่าสุด “โค้ก” จับมือ PLAN B สร้างปรากฏการณ์สื่อนอกบ้านรูปแบบใหม่ เปิดตัวแคมเปญ “โค้ก” ไม่มีน้ำตาล ที่อร่อยจนใครๆ ก็อยากได้ไปลิ้มลอง ผ่านสื่อนอกบ้านนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ‘Bus Live Ads Sync’ ที่ผสานเชื่อมโยงสื่อโฆษณาบนรถประจำทางเชื่อมต่อกับการเล่นภาพโฆษณาของจอ Digital Street Furniture เข้ากันได้อย่างสนุกสนาน ผ่านตัวการ์ตูน Taker ที่ขโมย “โค้ก” ไม่มีน้ำตาล ไปจากมือ พีพี - กฤษฏ์ แบบจะ ๆ กลางถนนทั่วกรุงเทพฯ กันไปเลย งานนี้นับได้ว่าเป็น New Innovative OOH ที่ “โค้ก” เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียว ที่ได้นำสื่อ Static OOH และ Digital OOH มา Sync กันด้วย Media Technology ใหม่ล่าสุดให้เกิด Interactive OOH ผ่านตัวเชื่อมแสนสนุก คือ ตัวการ์ตูน Taker และ “พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร” สมาชิกคนใหม่ของครอบครัว “โค้ก"